เพชรสีฟ้า (Blue Diamond) เป็นหนึ่งในเพชรแฟนซีสีที่งดงามและหายากที่สุดในโลก การแยกเกรดของเพชรสีฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะ “ระดับความเข้มและความบริสุทธิ์ของสี” มีผลโดยตรงต่อราคา ความต้องการ และคุณภาพโดยรวมของเพชร เมื่อนำมาจัดระดับสี (Color Grading) สถาบันชั้นนำอย่าง GIA (Gemological Institute of America) จะใช้มาตรฐานการจัดเกรดสีเพชรแฟนซีอย่างละเอียด
โทนสีเพชรสีฟ้าถูกแบ่งเป็นระดับต่าง ๆ โดยพิจารณาจาก 3 องค์ประกอบหลัก:
Hue – โทนสีหลัก (ฟ้า ฟ้าอมเทา ฟ้าอมเขียว เป็นต้น)
Tone – ความสว่างหรือความมืดของสี
Saturation – ความอิ่มของสี
การรวมกันของทั้งสามปัจจัยทำให้เกิดเกรดสีที่แตกต่างกันออกไป และกำหนดมูลค่าของเพชรอย่างชัดเจน
โทนสี: ฟ้าอ่อนจางจนแทบมองไม่เห็น
ลักษณะเด่น: สีฟ้าเป็นเพียงเงาเบาบาง
ความหายาก: ค่อนข้างพบได้บ้าง
ราคา: ต่ำที่สุดในกลุ่มเพชรสีฟ้า
เพชรระดับ Faint Blue มักจะดูเหมือนเพชรใสที่มีโทนเย็นหรือฟ้านิด ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพชรสีฟ้าในราคาย่อมเยาและต้องการความรู้สึกเรียบหรูแบบ subtle
โทนสี: ฟ้าจาง แต่มองเห็นได้ชัดเจนกว่า Faint
ลักษณะเด่น: สีฟ้าสว่าง ออกโทนอ่อน
ความหายาก: ยังค่อนข้างพบได้ แต่ไม่เยอะ
ราคา: สูงกว่า Faint
ระดับนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเพชรสีฟ้าที่สามารถมองเห็นสีได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน แต่ยังคงมีความนุ่มนวล ไม่จัดจ้าน เหมาะสำหรับงานเครื่องประดับที่ต้องการความหรูหราแบบ soft luxury
โทนสี: ฟ้าอ่อนชัดเจน แต่ยังไม่เข้ม
ลักษณะเด่น: สีฟ้าสดใส ดูสงบ อ่อนโยน
ความหายาก: เริ่มพบได้น้อย
ราคา: เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน
เพชรระดับ Light Blue มีสีฟ้าที่ปรากฏชัดเจนและได้รับความนิยมมากในการทำแหวนหมั้น เนื่องจากให้สีสันที่ดูมีเอกลักษณ์ โดยที่ไม่ราคาแรงเหมือนเกรดเข้มกว่า
โทนสี: ฟ้าสดใส เป็นประกาย แต่ยังไม่จัด
ลักษณะเด่น: ฟ้าชัดเจนและงดงาม มีความเป็น “เพชรสีฟ้า” อย่างแท้จริง
ความหายาก: พบได้น้อย
ราคา: ขยับสูงขึ้นเข้าสู่ระดับเพชรแฟนซีสี
เพชรเกรดนี้เริ่มเข้าสู่กลุ่ม “Fancy” ซึ่งเป็นเกรดที่นักสะสมเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น สีฟ้าจะสวย นุ่ม ออกโทนหรู และสามารถจับคู่ได้ดีกับทองคำขาวหรือพาลาเดียม
โทนสี: ฟ้าเข้มกำลังดี ไม่อ่อนหรือมืดเกินไป
ลักษณะเด่น: สีเน้นชัดเจน ดูหรูหราอย่างมีระดับ
ความหายาก: พบได้น้อยมาก
ราคา: สูงกว่า Light Blue หลายเท่า
นี่คือเกรดคลาสสิกของเพชรสีฟ้าที่ผู้เชี่ยวชาญต้องการมากที่สุด เพราะให้ความรู้สึก “ฟ้าแท้ — ฟ้าที่สวยแบบธรรมชาติ” โดยไม่มืดหรือหม่นมากจนเกินไป
โทนสี: ฟ้าเข้ม อิ่มตัว มีพลัง
ลักษณะเด่น: สีเด่นชัดแม้ในพื้นที่มืด
ความหายาก: หายากระดับสูง
ราคา: อยู่ในกลุ่มราคาพรีเมียม
เพชรในระดับ Fancy Intense Blue เป็นสีที่เห็นชัดเจนที่สุดว่านี่คือ “เพชรสีฟ้าคุณภาพสูง” สีมีความจัดจ้านและล้ำค่า ใช้ในงานเครื่องประดับ high jewelry อย่างแพร่หลาย
โทนสี: ฟ้าสด อิ่มตัวสูงที่สุดตามมาตรฐาน GIA
ลักษณะเด่น: สีฟ้าโดดเด่น ทะลุสายตา สว่างและลึกในเวลาเดียวกัน
ความหายาก: หายากที่สุดในเพชรสีฟ้าทุกเกรด
ราคา: สูงที่สุด มูลค่าระดับประมูลโลก
นี่คือระดับสีของเพชรตำนานหลายเม็ด เช่น
The Blue Moon of Josephine
The Oppenheimer Blue
เพชรระดับ Fancy Vivid Blue มีสีฟ้าที่ “สมบูรณ์แบบที่สุด” และแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะพบมากกว่า 1–2 เม็ดต่อปีในคุณภาพสูงระดับนี้
โทนสี: ฟ้าเข้มมากจนใกล้โทน Blue-Black
ลักษณะเด่น: สีเข้มลึก สวยคลาสสิก นุ่มลึกลับ
ความหายาก: สูงมาก
ราคา: ระดับเดียวกับ Fancy Vivid (ขึ้นกับความสะอาดของสี)
แม้สีจะเข้มกว่า Vivid แต่มีความดึงดูดแบบลึกลับ เหมาะกับผู้สะสมที่ชื่นชอบความลึกและเจิดจรัสของเพชรสีฟ้าแบบเข้มจัด
นอกจากความเข้มของสีแล้ว เพชรสีฟ้ายังอาจมี “โทนร่วม” ซึ่งมีผลต่อราคา เช่น:
– ให้โทนสีอควาเหมือนทะเล
– มีความหายากมาก แต่ราคาอาจต่ำกว่า Blue ล้วน ๆ
– สีจะหม่นลงเล็กน้อย
– ราคาลดลงจากเพชร Blue ที่ไม่มีปนสีเทา
– สีดูหรูและหายาก
– ราคาอาจสูงขึ้นหากโทนออกสวยและเข้ม
ในตลาดสี Blue ล้วน (Pure Blue) จะมีค่าแพงที่สุด เพราะได้สีสวยบริสุทธิ์และหายากจริง
โดยรวมแล้ว ความต่างระหว่างโทนสีเพชรสีฟ้าแต่ละเกรดมีผลต่อ:
✔ ความเข้มของสี
✔ ความอิ่มตัวของสี
✔ ความบริสุทธิ์ของโทนฟ้า
✔ ความหายากในธรรมชาติ
✔ ราคาตลาดและความนิยม
ตั้งแต่ Faint Blue ที่แทบไม่เห็นสี ไปจนถึง Fancy Vivid Blue ที่เป็นระดับสูงสุดในโลก แต่ละเกรดล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัว หากคุณต้องการเลือกซื้อเพชรสีฟ้า ต้องดูทั้ง สี – ความสะอาด – น้ำหนัก – การเจียระไน ร่วมกันเสมอ
เพชรสีฟ้า