เพชรสีฟ้าในวงการประมูลหรู: เคสประวัติศาสตร์การประมูลราคาทะลุสถิติ

วงการอัญมณีหายากโดยเฉพาะ เพชรสีฟ้า (Blue Diamond) ถือเป็นสนามแข่งขันของนักสะสมระดับโลกและผู้มั่งคั่ง ต่อให้คุณสมบัติทางธรณีวิทยาจะซับซ้อน แต่เพชรสีฟ้าเม็ดใหญ่คุณภาพสูงที่ผ่านการเจียระไนอย่างดีนั้นสามารถสร้างประวัติศาสตร์ในเวทีประมูลหรูได้อย่างน่าทึ่ง บทความนี้จะพาคุณสำรวจ เคสสำคัญของการขายเพชรสีฟ้าในงานประมูลระดับโลก ซึ่งไม่ได้แสดงถึงมูลค่าเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนถึงสถานะของเพชรสีฟ้าในฐานะ “อัญมณีเหนือกาลเวลา” และ “สินทรัพย์สะสมระดับตำนาน”

1. ความหมายของ “เพชรสีฟ้า” ในวงการประมูล

เพชรสีฟ้าโดยทั่วไปเป็นเพชรที่มีการแทรกธาตุโบรอน (Boron) ในโครงสร้างผลึก ซึ่งให้สีฟ้าหายากมาก เป็นเพชร Type IIb ในหลายกรณี ดังนั้น เมื่อเม็ดเพชรสีฟ้าบางเม็ดถูกนำมาประมูล หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาคือ ความหายากร่วมกับ คุณภาพสี (Hue, Saturation, Tone) และการเจียระไน ความลึกของสีฟ้า (เช่น Fancy Vivid Blue) หรือความใสมาก (clarity) ล้วนเป็นตัวขับมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ เพชรสีฟ้าที่ปรากฏในเวทีประมูลระดับสูงส่วนมากเป็น “สตาร์อัญมณี” (Gemstone Stars) — เม็ดที่มีประวัติหรือชื่อเสียง (เช่น เคยเป็นของครอบครัวมีชื่อ) จึงมีความหมายทางวัฒนธรรมและการสะสมมากกว่าของทั่วไป

2. เคสประวัติศาสตร์การประมูลเพชรสีฟ้า ที่สะท้อนมูลค่าสุดขีด

2.1 The Oppenheimer Blue — เพชรสีฟ้าทะลุสถิติ 57.5 ล้านดอลลาร์

หนึ่งในเพชรสีฟ้าที่โด่งดังที่สุดในโลกคือ Oppenheimer Blue เม็ดน้ำหนัก 14.62 กะรัต ที่ขายโดย Christie’s เจนีวา ในปี 2016 ด้วยราคาสูงถึง 57.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รวมค่าคอมมิชชั่น) CNBC+2nationaljeweler.com+2

• เม็ดเพชรนี้ถูกเจียระไนแบบ “rectangular / step-cut” และถูกจัดให้อยู่ในเกรด Fancy Vivid Blue ซึ่งเป็นโทนสีฟ้าที่เข้มมาก เพราะโบรอนในผลึกค่อนข้างสูง christies.com

• ความใสจัดอยู่ในระดับ VVS1 (Very Very Slightly Included) ซึ่งมีค่าสูง เป็นเพชรคุณภาพชั้นยอดที่นักสะสมระดับโลกมองว่าเป็น “gem of gems” christies.com+2nationaljeweler.com+2

• การประมูลใช้เวลาหลายนาทีและมีการประมูลทางโทรศัพท์ หลายผู้ประมูลเข้าร่วมจากหลายทวีป ส่งผลให้กระบวนการแข่งค่อนข้างดุเดือด nationaljeweler.com+1

Oppenheimer Blue จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเพชรสีฟ้าในตลาดประมูลระดับสูง — เป็นหนึ่งในอัญมณีที่มีมูลค่าสูงที่สุดและสร้าง benchmark ใหม่ให้กับวงการ

2.2 The Blue Moon of Josephine — เพชรสีฟ้า 12 กะรัตที่ทำลายสถิติต่อกะรัต

ในปี 2015, Sotheby’s เจนีวา ประมูลเพชร Blue Moon of Josephine น้ำหนัก 12.03 กะรัต ขึ้นสู่สำนักประมูลโดยอ้างว่าเป็น “หนึ่งในเม็ดสีฟ้าที่หายากที่สุด” วิกิพีเดีย+2Sothebys.com+2

• เม็ดนี้ถูกเกรดโดย GIA ว่าเป็น Fancy Vivid Blue และความใสเป็น “Internally Flawless” (ไม่มีตำหนิภายใน) วิกิพีเดีย

• ราคาสุดท้ายที่ประมูลได้คือประมาณ 48.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ วิกิพีเดีย

• รายงานของ Sotheby’s ระบุว่าเพชรเม็ดนี้ทำลายสถิติต่อกะรัต (price per carat) ของอัญมณีใด ๆ ซึ่งสะท้อนถึงมูลค่าสะสมและความต้องการในหมู่นักสะสมอย่างชัดเจน Sothebys.com+1

• ผู้ซื้อเป็นเศรษฐีจากฮ่องกง ซึ่งตั้งชื่อเพชรว่า “Blue Moon of Josephine” เพื่อเป็นเกียรติแก่ลูกสาวของเขา (Josephine) วิกิพีเดีย

เคสนี้แสดงให้เห็นว่าความหายากของเพชรสีฟ้าในเกรด vivid พร้อมคุณภาพใสสูงสามารถดึงดูดนักสะสมระดับโลก และทำให้มูลค่าเพชรต่อกะรัตพุ่งสูงจนหลายเท่าของเพชรสีแฟนซีทั่วไป

2.3 De Beers Blue / De Beers Cullinan Blue — เพชรสีฟ้าขนาดใหญ่ในตลาดเอเชีย

เพชรอีกเม็ดที่สร้างชื่อเสียงในตลาดประมูลหรูคือ De Beers Blue (Cullinan Blue) — เม็ดน้ำหนัก 15.10 กะรัต ซึ่งขายโดย Sotheby’s ฮ่องกง ในปี 2022 ด้วยราคาสุดท้าย 57.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Sothebys.com

• เพชรเม็ดนี้เป็น Fancy Vivid Blue และมีความใสแบบ “Internally Flawless” ตามใบของ GIA ซึ่งยากมากที่จะพบในเพชรสีฟ้าขนาดใหญ่เช่นนี้ Sothebys.com

• รูปทรงถูกเจียระไนแบบ “step-cut” ซึ่งช่วยเน้นสีฟ้าเข้มและความลึกของเฉดสี

• ในการประมูลมีการประมูลยาวนานถึง 8 นาที โดยมีผู้ประมูล 4 รายแข่งขันกันอย่างเข้มข้น สะท้อนถึงความต้องการเม็ดอัญมณี rare นี้ในภูมิภาคเอเชีย Sothebys.com

• ตัวแทนของ Sotheby’s เอเชียกล่าวว่านี่คือ “once-in-a-generation stone” — เพชรสีฟ้าที่หาดูได้ยากระดับนี้อาจไม่โผล่ออกมาบ่อยในเวทีประมูล

การขายนี้จึงไม่เพียงสร้างมูลค่าทางการเงิน แต่ยังเพิ่ม “บทบาทเอเชีย” ในวงการประมูลอัญมณีหายาก และย้ำความสำคัญของเพชรสีฟ้าในฐานะสมบัติธรรมชาติระดับโลก

2.4 Mellon Blue / The Zoe Diamond — เพชรสีฟ้าจากตระกูล Mellon

อีกเคสหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ Mellon Blue (บางครั้งเรียกว่า “The Zoe Diamond”) — เพชรน้ำหนักประมาณ 9.5–9.75 กะรัต ซึ่งเคยปรากฏในหลายงานประมูล:

• ในปี 2014 ถูกขายโดย Sotheby’s นิวยอร์ก โดยราคาอยู่ที่ 32.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ $3,348,205 ต่อตารางกะรัต) ซึ่งในตอนนั้นถือเป็นตัวเลขสูงมากสำหรับเพชรสีฟ้าแฟนซี Sothebys.com

• ในประมูลปีล่าสุด (ข่าวปี 2025) เม็ด “Mellon Blue” ประมูลได้อีกครั้งที่ Christie's เจนีวา และขายในราคา 25.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ AP News

• เม็ดเพชรนี้มีลักษณะ “ผอมใส” (Internally Flawless) และโทน Fancy Vivid Blue ซึ่งทำให้เป็นเม็ดที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

Mellon Blue เป็นตัวอย่างชัดเจนของเพชรสีฟ้าที่มีประวัติอันสำคัญ — ไม่เพียงเรื่องมูลค่า แต่ยังรวมถึง “เรื่องราวครอบครัว” และ “การสืบทอดความหายาก” ในตลาดประมูล

3. เหตุผลเบื้องหลังการประมูลราคาทะลุสถิติของเพชรสีฟ้า

การที่ เพชรสีฟ้าเม็ดใหญ่คุณภาพสูง สามารถทำราคาทะลุหลายสิบล้านดอลลาร์ในการประมูลหรู มีปัจจัยหลายมิติ:

3.1 ความหายากของเฉดสี Blue Vivid & Type IIb

• เพชรสีฟ้าเข้ม (Fancy Vivid Blue) เป็นหนึ่งในเฉดที่หายากที่สุด

• การแทรกโบรอน (Boron) ในระดับที่ให้โทนสีฟ้าเข้มแบบ vivid นั้นไม่ธรรมดา ผลึกต้องมีความสมดุลทางเคมีสูง

• เม็ดขนาดใหญ่ + สี vivid + ใสสูง (เช่น VVS / IF) คือ “สูตรล้ำค่า”ที่นักสะสมระดับพระราชวงศ์หรือเศรษฐีจำนวนมากใฝ่หา

3.2 ประวัติศาสตร์และต้นกำเนิด

• เพชรเช่น Oppenheimer Blue เคยเป็นของครอบครัว Oppenheimer ซึ่งมีบทบาทสำคัญในวงการเพชร (De Beers) christies.com+1

• เม็ด Blue Moon of Josephine มาจากเหมือง Cullinan ซึ่งเป็นแหล่งเพชรชื่อดัง สร้างความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์และความหายาก

• เม็ด Mellon Blue มีชื่อเสียงเกี่ยวโยงกับตระกูล Mellon ที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลในยุโรปและอเมริกา

เรื่องราวเบื้องหลัง (provenance) เพิ่มมูลค่าให้ เพชรสีฟ้า เพราะไม่ใช่แค่อัญมณี แต่เป็น “เครื่องล้ำค่าในประวัติศาสตร์”

3.3 ความมั่นคงเป็นสินทรัพย์สะสม

• นักลงทุนและนักสะสมใช้เพชรเม็ดดังเหล่านี้เป็น “สินทรัพย์สะสมระยะยาว” เพราะความน่าจะเป็นที่จะเกิดเม็ดขนาดใหญ่ + สี vivid อีกนั้นต่ำมาก

• การประมูลระดับหรูจึงมีบทบาทกระตุ้นความสนใจและทำให้ราคาเม็ดหายากถูกยืนในระดับสูง

• ประเภทเม็ดประวัติศาสตร์ (historic gemstone) มักเพิ่มมูลค่ามากกว่าการสะสมเพชรรุ่นใหม่ทั่วไป

4. ความเสี่ยงและบทเรียนจากประมูลเพชรสีฟ้า

แม้การประมูลเพชรสีฟ้าจะน่าตื่นเต้นและสร้างสถิติ แต่ก็มีความเสี่ยงหลายประการที่ผู้ซื้อระดับ High-End และนักสะสมควรระวัง:

1. ต้นทุนประมูลสูง: ค่านายหน้า (buyer’s premium) ค่าภาษี และค่าเจียระไนหากต้องปรับปรุง

2. สภาพคล่องต่ำ: ไม่ใช่ทุกการประมูลจะมีผู้สนใจมากพอ การขายต่ออาจยากขึ้น

3. การประเมินคุณภาพ: ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหรือสถาบันอัญมณีศาสตร์ (เช่น GIA) เพื่อประเมินสี ความใส และความแท้ของเพชรสีฟ้า

4. ความผันผวนของตลาด: แม้เพชรหายากราคาจะสูง แต่ตลาดอัญมณีระดับไฮเอนด์ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกและความต้องการของนักสะสม

5. สรุป: บทเรียนจากโลกประมูลของเพชรสีฟ้า

• เพชรสีฟ้า เม็ดใหญ่และสี vivid ได้สร้างประวัติศาสตร์ในการประมูลหรู ทั้งในชื่อเสียงและมูลค่า

• เคสสำคัญอย่าง Oppenheimer Blue, Blue Moon of Josephine, De Beers Cullinan Blue, และ Mellon Blue แสดงถึง “พลังสะสม”ของอัญมณีหายากในฐานะสินทรัพย์ระดับตำนาน

• การลงทุนในเพชรสีฟ้าเม็ดหลักควรทำโดยผู้มีวิสัยทัศน์ระยะยาว ผู้พร้อมรับความเสี่ยงด้านการประมูลและการจัดเก็บ

• สำหรับนักสะสมและผู้ที่มองโลกอัญมณี “เพชรสีฟ้า” ไม่ใช่แค่อัญมณี แต่เป็น งานศิลปะธรรมชาติ — และเวทีประมูลระดับโลกคือพื้นที่ที่เผยคุณค่าที่แท้จริงของมัน